ความคืบหน้าคดี นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม อายุ 36 ปี พนักงานโรงงานเชือกมัดกล่องพัสดุ เชือกขาวเกลียว ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เนื่องจากวางยาพิษ ไซยาไนด์ จนทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายรายตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น วันนี้เวลา 15:00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ได้เกินทางมาสอบพยานบุคคลเพิ่มเติม โดย รอง ผบ.ตร.กล่าวว่า พยานคนใหม่ที่เข้ามาวันนี้เป็นเพื่อนสนิทของแอมแล้วได้ไปติดต่อกับองค์กรภาคประชาชนเพื่อที่จะเข้ามาให้ข้อมูลกับทางตำรวจ ซึ่งจะต้องสอบสวนดูก่อนว่าจะมีประเด็นอะไรบ้างยืนยันว่าวันนี้ทางตำรวจมีข้อมูลมากพอที่จะเอาผิดกับแอมได้ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ในวันนี้มีหลานภาคส่วนเข้ามาให้ข้อมูลมากมายในคดีของแอม
ในช่วงเช้าของวันนี้ก็มีนายประกันที่แอมเคยติดต่อขอทำประกันให้กับนายแด้ ได้เข้าไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ซึ่งมีข้อมูลว่าแอมพยายามเรียกวงเงินประกันหลังจากการตายที่สูงถึง 7 ล้านบาท แม้ว่าจะมีการแนะนำผลได้ผลเสียจากนายประกันแล้วก็ตาม
บุคคลที่แอมขอพบในเรือนจำไม่ใช่พยานคนดังกล่าวที่มาในวันนี้แต่บุคคลที่แอมไว้วางใจมากที่สุดคือทนายความซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและทนายความ
ส่วนเรื่องกระเป๋าและทรัพย์สิน ของก้อย 1 ในผู้เสียชีวิตยังหาไม่เจอ ณ ตอนนี้คำให้การของพยานหลายคนยังไม่ตรงกับพยานหลักฐานที่พบ ย้ำว่าถัาใครโกหกเดี๋ยวก็คงได้ทราบกันเพราะการมห้การครั้วแรกเป็นการให้การวนฐานะพยาน แต่หากสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานแล้วพบว่าไม่ตรวกับคำให้การ จะมีความผิดข้อหาให้การเท็จ
ทางด้าน อ้อ ชลิดา พะละมาตย์ ตัวแทนจากมูลนิธิ วิน วิน ผู้ติดต่อพยานรายล่าสุดให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า พยานคนนี้ตนเองรู้จักเนื่องจากเป็นคนที่ให้ข้อมูลเรื่องขบวนการหวยทิพย์ รวมถึงเรื่องขบวนการออกรถป้ายแดงของแอม ซึ่งจากข้อมูลพยานคนนี้เป็นบุคคลที่แอมไว้วางใจและมีชื่อระบุเป็นผู้ที่แอมให้เข้าเยี่ยมในเรือนจำด้วย ตนเองจึงตั้งใจพาพยานคนนี้มาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดี เพราะหวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการประกอบสำนวน แต่เมื่อพูดคุยกันพยานคนนี้บอกว่า ช่วงเดือนก่อนมีพัสดุปริศนาส่งมาที่บ้านในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งบ้านหลังนี้ปกติแล้วจะไม่มีใครอยู่ จึงเกิดความสงสัยว่าเป็นพัสดุเกี่ยวกับอะไร ตัวเองและทีมงานจึงลงพื้นที่ไปดูกล่องพัสดุนี้และนำมาในวันนี้
โดยช่วงแรกคิดว่ามีการสั่งซื้อสินค้าจึงทำการเปิดออกดูก่อนโดยใส่ถุงมือป้องกันไว้ และเมื่อเปิดดูกล่องพัสดุดังกล่าว ภายในพบว่ามีถุงดำ และถุงพลาสติกห่อ 2 ชั้น เมื่อเปิดถุงพลาสติก ปรากฎว่าเป็นทรัพย์สินรวม 6 รายการ ได้แก่ กระเป๋าถือแบรนด์เนม 1ใบ , กระเป๋าเงิน 2 ใบ , กระเป๋าใส่นามบัตร 1 ใบ และเอกสารใบเสร็จรับส่งสินค้าที่มีชื่อผู้รับสินค้า คือ นางสาวศิริพร ขันวงษ์ หรือ “ก้อย” และโทรศัพท์มือถือ1เครื่อง โดยทราบว่ากล่องพัสดุดังกล่าวส่งมาตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย. เวลาประมาณ16.00น. จากขนส่งบริษัทเอกชน ไปยังบ้านในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งพัสดุไปถึงหลังจากก้อยเสียชีวิตไปแล้ว5วัน โดยมีรายชื่อผู้ส่งปรากฎชัดเจน พร้อมทั้งเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งที่อยู่ ผู้ส่ง อยู่ในอำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โดยจากการสอบถามญาติของก้อย ระบุว่า ทรัพย์สินดังกล่าวเป็นของก้อยจริง แต่อยู่ระหว่างให้ตำรวจทำการตรวจสอบรายละเอียดของผู้ส่งพัสดุ เพราะพยานไม่รู้จักชื่อของผู้ส่ง แต่พยานคนดังกล่าวยืนยันได้ว่า แอม รู้ที่อยู่และบ้านของพยานรายนี้ที่จังหวัดเพชรบุรี