พ่อสามีโหด วางแผนหลอกลูกชาย ก่อนกลับบ้านมาฆ่าลูกสะใภ้ พบเป็นซากศพในกองเพลิง
เหตุการณ์ฆาตกรรมสุดโหดรายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น.ของวันที่ 8 มิถุนายน 2566 พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช พันตำรวจเอกโชคดี ศรีเมือง ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พันตำรวจโทมนตรี วรรณคง พนักงานสอบสวน นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ แพทย์เวรชันสูตร รพ.มหาราช และหน่วยกู้ภัยไต้เต๊กเซี่ยงตึ๊ง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณขนำหลังบ้าน หมู่ 4 ตำบลปากพูน อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช หลังจากรับแจ้งมีการฆาตกรรมและมีการเผาศพอำพรางคดีภายในบ้านที่เกิดเหตุ หลังจากเจ้าหน้าที่เข้าดับเพลิงในจุดเกิดเหตุถึงกับตกตะลึงเมื่อพบว่าภายในกองเพลิงพบผู้เสียชีวิตสภาพกลายเป็นซากก้อนเนื้อ พอเหลือให้เป็นว่าเป็นโครงร่างของมนุษย์ถูกเพลิงเผาไหม้อย่างรุนแรงไปพร้อมกับซากขนำ ทราบชื่อต่อมาคือนางสาวนรมล อายุ 28 ปี กล่องเบเกอร์รี่ กล่องใส่ขนม
ส่วนบริเวณบ้านหลังหน้าพบ นายกนกพงศ์ อายุ 28 ปี สามีของนางสาวนรมล ร่ำไห้รอเจ้าหน้าที่ ให้ข้อมูลว่านางสาวนรมล อาศัยอยู่ที่บ้านโดยมีพ่อคือนายเล็ก อายุ 60 ปี แต่ช่วงช่วงเช้าที่ผ่านมาพ่ออยู่ในอาการเมาและได้หลอกให้ตนเองไปส่งที่บ้านท่าแพ ตนเองจึงขับรถไปส่งจากนั้นได้ไปทำงานตัดปาล์มในสวนนายจ้างจนเที่ยงมีคนไปบอกว่าไฟไหม้บ้านจึงกลับมาพบว่าภรรยาอยู่ในกองเพลิง ส่วนพ่อหายตัวไป พ่อมีเรื่องระหองระแหงกับภรรยาของตนเองเสมอด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น เข้าใจว่าพ่อตั้งใจหลอกให้ตนเองออกไปส่ง แล้วกลับมาก่อเหตุภายหลัง
อย่างไรก็ตามเพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันได้ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าได้ยินเสียงนายเล็กและลูกสะใภ้ทะเลาะโต้เถียงกันอย่างรุนแรง แต่ไม่ได้สนใจเนื่องจากทะเลาะกันอยู่เสมอ จนกระทั่งเงียบเสียงไปไม่นานได้ยินเสียงไฟปะทุกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงจึงชะโงกไปดูเห็นว่าเพลิงกำลังไหม้ขนำอย่างรุนแรง ขณะที่นายเล็กเดินเตร็ดเตร่อยู่หน้าบ้าน จึงวิ่งไปแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เทศบาลเมืองปากพูน ห่างไปเพียงเล็กน้อยสามารถนำรถมาดับเพลิงได้แต่พบว่ามีคนตายอยู่ในกองเพลิง ส่วนนายเล็กหายตัวไปแล้ว
ต่อมาพันตำรวจเอกโชคดี ศรีเมือง ผู้กำกับการ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่ได้คุมตัวนายเล็ก ไว้ได้ขณะที่ไปนั่งดื่มเหล้าอยู่ไม่ห่างจากที่เกิดเหตุก่อนนำตัวไปทำการสอบข้อมูล โดยมีพลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ติดตามไปสอบสวนที่ป้อมสายตรวจบ้านบางปู นายเล็ก อ้างว่านางสาวนรมล ติดยาเสพติดและได้เกิดทะเลาะกันเป็นประจำ มักจะมั่วสุมเสพยา ก่อนเกิดเหตุได้ทะเลาะกัน จากนั้นจึงใช้ไม้ทุบขาจนล้มลง ต่อมา ได้วิ่งเข้าไปในบ้านจึงเข้าไปซ้ำให้ตายๆ ไปไม่ต้องรำคาญ
จากนั้นได้ปิดบ้านแล้วออกมาด้านนอกจนเจ้าหน้าที่มาจับตัว ส่วนเจ้าหน้าที่ได้ประมวลเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุจากข้อมูลของพยานแวดล้อมและลักษณะที่เกิดเหตุน่าเชื่อว่านายเล็กได้ทุบทำร้ายนางสาวนรมล จนได้รับบาดเจ็บจากนั้นนางสาวนรมลได้วิ่งเข้าไปหลบในขนำแล้วนายเล็กตามเข้าไปทำร้ายจากนั้นได้ปิดประตูขังก่อนที่จะจุดไฟเผาทั้งบ้านทั้งคน โดยเจ้าหน้าที่จะต้องพิสูจน์ว่าผู้ตายนั้นตายก่อนที่จะถูกเผา หรือถูกไฟคลอกเผาจนตายจากที่ถูกขังอยู่หรือไม่ ซึ่งส่งผลต่อรูปคดี
ขณะที่พลตำรวจตรีสมชาย ซื่อต่อตระกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ระบุว่าผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ รับว่าทำร้ายแต่ไม่รับว่าเผา อ้างว่าผู้ตายมั่วสุมยาเสพติดเป็นเหตุให้ไม่พอใจเป็นชนวนในการทำร้าย ด้านแพทย์เวรชันสูตร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ได้เข้าชันสูตรพลิกศพผู้ตายในที่เกิดเหตุจากสภาพกายภาพภายนอกนั้นยังไม่สามารถระบุเหตุการณ์ตายที่แน่ชัดได้ ว่าตายก่อนที่จะเกิดเพลิงไหม้ หรือเพลิงไหม้เป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย รวมทั้งร่องรอยของการทำร้ายอื่นๆ ต้องชันสูตรอย่างละเอียด ส่วนสภาพศพนั้นอยู่ในสภาพไหม้เกรียมเสียหายทั้งร่างมากกว่า 50 เปอร์เซ็น สำหรับนายเล็กนั้นพบว่าเพิ่งพ้นโทษมาได้เพียง 3 เดือนในคดีเกี่ยวกับยาเสพติด ส่วนลูกชายและลูกสะใภ้นั้นมีส่วนพัวพันกับยาเสพติดเช่นเดียวกันซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มของผู้เสพ